Currency Carry Trades 101
Currency Carry Trades 101
โดย Kathy Lien
คำที่เกี่ยวข้อง : Hedge Funds Love These 5 Health Care Stocks : But Should You?
ไม่ว่าคุณจะลงทุนในหุ้น พันธบัตร โภคภัณฑ์ หรือค่าเงิน คุณก็จะรู้จัก carry trade ได้ กลยุทธ์นี้สร้างกำไรได้ตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมาแต่ว่าในหลาย 10 ปีมานี้มันได้รับความนิยมในกฃุ่มนักลงทุนส่วนบุคคล ยิ่งไปกว่านั้น การเทรดแบบ carry trade เป็นวิธีทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คนที่เทรดวิธีนี้ได้เรียนรู้ว่าการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจทำให้กำไรที่เขาสะสมมากว่า 7 ปีหายลับไปภายใน 3 เดือน
หนำซ้ำ กำไรที่ทำได้ระหว่างปี 2000 - 2007 ทำให้เทรดเดอร์หวังว่า Carry trade จะกลับมาทำกำไรได้ สำหรับคนที่กำลังงงว่า carry trade คืออะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรเกี่ยวกับตลาดค่าเงิน เราขอต้อนรับคุณสู่ Carry Trades 101 เราจะมาดูกันว่า Carry trade คืออะไรและทำงานอย่างไร แล้วมันแตกต่างกันอย่างไรในแง่ของนักลงทุนระยะยาวและระยสั้นสำหรับกลยุทธ์นี้
อะไรคือ carry trade?
Carry trade เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในตลาดค่าเงิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อค่าเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงคล้าย ๆ กับการซื้อราคาต่ำขายราคาสูงนั่นแหละ
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อค่าเงินเช่น Australian dollar/Japanese yen New Zealand dollar/Japanese yen เพราะว่าอัตราแลกเปลี่ยนเหล่านี้มีดอกเบี้ยสูง สิ่งแรกในการเทรด carry trade คือต้องหาค่าเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงค่าหนึ่งและอีกค่าเงินหนึ่งเป็นค่าเงินที่มีผลตอบแทนต่ำ
ในเดือน มิถุนาปี 2010 อัตราดอกเบี้ยสำหรับค่าเงินที่มีสภาพคล่องมากที่สุดในโลกมีดังนี้ :
Australia (AUD) 4.50%
New Zealand(NZD) 2.75%
Eurozone (EUR) 1.00%
Canada (CAD) 0.50%
U.K. (GBP) 0.50%
U.S. (USD) 0.25%
Swiss franc (CHF) 0.25%
Japanese yen (JPY) 0.10%
ด้วยอัตราดอกเบี้ยระดับนี้คุณสามารถนำค่าเงินต่าง ๆ มาผสมกันจะได้อัตราดอกเบี้ยที่สูงและต่ำเข้าด้วยกัน อัตราดอกเบี้ยสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลาและเทรดเดอร์ต้องติดตามมันโดยดูตามเว็บของธนาคารกลางสหรัฐฯ เนื่องจากนิวซีแลนด์และออสเตรเลี้ยมีอัตราผลตอบแทนสูงสุดขณะที่ญี่ปุ่นมีอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด ซึ่งหมายความว่าค่าเงิน AUD/JPY เหมาะสำหรับการ carry trade เนื่องจาก New Zealand กับ Australia มีอัตราผลตอบแทนที่สูงขณะที่ญี่ปุ่นให้ผลตอบแทนต่ำ ค่าเงินจะเทรดเป็นคู่ดังนั้นสิ่งที่นักลงทุนต้องทำคือ buy NZD/JPY หรือ AUD/JPY ของโบรคเกอร์
ค่าเงินเยนมีต้นทุนการยืมเงินที่ต่ำ ในหลาย 10 ปีมานี้ นักลงทุนในตลาดอื่นๆ เริ่มทำ Carry trade ในเวอร์ชั่นของตัวโดยการ Sell Yen และ Buy Us หรือ หุ้นจีน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดฟองสบู่ในตลาดและนี่เป็นเห็นผลว่าทำไม ความสัมพันธ์ในตลาดหุ้นและตลาดค่าเงินจึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ
กลไกของการเทรด
หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของ carry trade คือความสามารถในเรื่องของดอกเบี้ย รายได้จะได้ทุกวันจากการเทรดค่าเงินที่มี Rollover เป็นบวกและของวันเสาร์ อาทิตย์ได้ในวันพุธ ซึ่งการคำนวณอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นเป็นดังนี้:
(อัตราดอกเบี้ยค่าเงินที่คุณ Buy – อัตราดอกเบี้ยที่คุณ Short ) x ขนาดของออร์เดอร์คุณ x จำนวนวัน
เช่น เทรด 1 lot AUD/JPY หมายความว่า 100,000 เราจะคำนวณดังนี้ :
(.0450 – 0.001) x 100,000 = $12 ต่อวัน
365
จำนวนเงินที่ได้ไม่ใช่ 12 เหรียญตายตั่วเพราะว่าธนาคารจะใช้อัตราดอกเบี้ยอัตราข้ามคืน ซึ่งเปลี่ยนไปเปลีย่นมาทุกวัน
แต่ว่ามันสำคัญมากที่สามารถทำกำไรจากการ AUD/JPY สำหรับคนที่ทำกำไรได้จากจะได้ดอกเบี้ยทุกวัน
แล้วกลยุทธง่าย ๆ อย่างนี้เริ่มเป็นที่นิยมได้อย่างไร?
ช่วงเดือน มกราคา 2000 ถึงเดือน พฤษภาคม 2007 ค่าเงิน AUDJPY มีอัตราดอกเบี้ย 5.14 % สำหรับคนทั่วไปนี่เป็นผลตอบแทนที่ดีและในตลาดที่ใช้ Leverage สูงแม้จะให้ Leverage แค่ 10 ก็สามารถให้ผลตอบแทนได้อย่างมหาศาล นักลงทุนได้กำไรไม่ว่าค่าเงินจะไปทางไหนอย่างไรก็ตามเมื่อคนเริ่มเห็นช่องว่างตรงนี้และใช้ประโยชน์จากมัน ค่าเงินมันไม่เคยที่จะคงที่ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึง เดือนเมษายน 2010 ค่าเงิน AUD/USD ขยับขึ้นเกือบ 10 % ซึ่งถ้านับตั้งแต่ปี 2001 มามันเพิ่มค่าขึ้นกว่า 70 %
แล้ว
Figure 1
แล้ว Carry trade จะใช้ได้ผลเมื่อไหร่?
• เมื่อธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ย
Carry trades จะทำงานได้ดีเมื่อมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือว่าแผนว่าจะขึ้น เงินก็จะย้ายจากประเทศไหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งเพียงแค่คลิ๊กเมาส์นักลงทุนจะไม่ลังเลที่จะย้ายเงินของเขาไปสถานที่ที่ผลตอบแทนสูงกว่า ไม่เพียงแค่อัตราดอกเบี้ยเขายังหาค่าเงินที่มีแนวโน้มเติบโตด้วย ความน่าดึงดูดของ carry trade ไม่ใช่แค่ผลตอบแทนแต่เป็นการเพิ่มค่าของค่าเงินด้วย เมื่อธนาคารเพิ่มอัตราดอกเบี้ย พวกเขาก็จะคิดเหมือนกัน และย้ายเงินมาลงทุนทำให้มูลค่าของค่าเงินพุ่งสูงขึ้น กุญแจของเราก็คือต้องเข้าตั้งแต่ตอนที่มันเกิด
• ความผันผวนต่ำ
Carry trades ยังสามารถทำงานได้ดีในช่วงที่มีความผันผวนต่ำ เพราะว่าเทรเดอร์จะชอบเสี่ยงมากขึ้น ซึ่ง carry trade จะอะไรที่มีผลตอบแทนสูงทำให้การเพิ่มขึ้นของค่าเงินแป็นเหมือน Bonus ดังนั้นผู้ที่เทรด Carry trade โดยเฉพาะพวก hedge fund ที่มีเงินเยอะจะมีความสุขภาพค่าเงินไม่เคลื่อนไหว เพราะว่าพวกเขาจะได้กำไรจากอัตราดอกเบี้ยที่ใช้ leverage และเทรดเดอร์หรือนักลงทุนก็จะมีความเสี่ยงต่ำในสภาพแวดล้อมแบบนี้ด้วย แต่ในทางกลับกันถ้านักลงุทนเข้ามาเทรดจนเคยตัวแล้วมันก็จะเสี่ยเงพิ่มขึ้นเหมือนกัน
เมื่อไหร่ที่ carry trades ใช้ไม่ได้ ?
• เมื่อธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ย
ความสามารถในการทำกำไรของ Carry trade จะเจอกับปัญหาเมื่อประเทศที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงจะลดดอกเบี้ยของพวกเขา ซึ่งจะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนในนโยบายการเงินทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเทรนด์ของค่าเงิน ซึ่งหลักการของ carry trade หมายความว่าค่าเงินต้องไม่เปลี่ยนแปลงในมูลค่าหรือลดค่าลง เมื่ออัตราดอกเบี้ยลด นักลงทุนต่างประเทศจะพยายามหาโอกาสอื่นในการทำกำไรเมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น อุปสงค์ของค่าเงินจะลดลงและมีการขายออกมันไม่ยากว่าวิธีการนี้จะยังใช้ได้ผลอยู่หรือไม่เพียงแค่ดูว่าค่าเงินลดลงมากกว่าราคาเฉลี่ยที่มันเคลื่อนไหวตลอดทั้งปีหรือเปล่าเท่านั้น ซึ่งการเทรดที่ใช้ Leverage ทำให้การขาดทุนมันสูงมากทำให้ carry trade ใช้ไม่ได้และสามารถทำลายพอร์ทได้
• การแทรกแซงค่าเงินของธนาคารกลาง
Carry trade ยังใช้ไม่ได้ในการที่ธนาคารกลางแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อให้ค่าเงินไม่แข็งค่าขึ้นหรือป้องกันมันจากการลดลงเช่นกัน สำหรับประเทศที่พึ่งพาการส่งออก ค่าเงินที่แข็งทำให้การส่งออกของเขาต้องหยุดชะงักพวกเขาต้องทำให้ค่าเงินอ่อนค่าเงินแข็งทำให้ผลประกอบการของบริษัทส่งออกลดลง ดังนั้นเช่นเมื่อค่าเงิน Aussie หรือ Kiwi แข็งค่ารัฐบาลกลางมีแนวโน้มว่าจะทำการแทรกแซง ซึ่งการแทรกแซงสามารถส่งผลต่อ carry trade
มันง่ายอย่างนั้นเลยหรือ?
กลยุทธ์ carry trade ไม่ง่ายเพียงแค่ buy ค่าเงินที่มีผลตอบแทนดีและ Sell ค่าเงินที่ผลตอบแทนน้อยกว่า เนื่องจากระดับของอัตราดอกเบี้ยมีส่วนสำคัญ สิ่งที่สำคัญกว่าคือทิศทางในอนาคตของอัตราดอกเบี้ย ตัวอย่างเช่น ค่าเงินดอลล่าร์สามารถแข็งค่าขึ้นอีกถ้าเปรียบกับค่าเงิน AUS ถ้าธนาคารกลางสหรัฐฯเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเวลานั้นและธนาคารกลางออสเตรเลียลดค่าเงิน สิ่งเหล่านี้จะตามมาด้วยความไม่แน่นอน ความหวาดกลัวสามารถทำให้นักลงทุนถอนการลงทุนจาก carry trade 45 % ของค่าเงินลดลงเช่น AUD/JPY และ NZD/JPY ในปี 2008 เป็นจุดระเบิดของ Subprime ทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก เนื่องจาก carry trade เป็นการเทรดแบบใช้ Leverage การขาดทุนก็ย่อมเกิดขึ้นมากเช่นเดียวกัน
วิธีที่ดีที่สุดในการเทรด Carry trade คือการเทรดแบบตะกร้า
ใน carry trade ธนาคารกลางอาจจะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้คงที่ขณะที่อีกธนาคารหนึ่งอาจจะเพิ่มหรือลด ถ้าเราเทรดแบบตะกร้าที่ประกอบด้วย 3 ค่าเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและต่ำ ไม่ได้มีค่าเงินใดค่าเงินหนึ่งที่มีสัดส่วนในพอร์ทลงทุนของเรามากทำให้เมื่อเกิดการปรับอัตราดอกเบี้ย ผลขาดทุนไม่รุนแรงมากและนี่เป็นวิธีที่นิยมกันในการเทรดแบบ Carry trade ในกลุ่ม Hedge fund กลยุทธ์นี้มีแท็คติคนิดหน่อยเมื่อเทรดในนักลงทุนส่วนบุคคลเพราะว่าต้องใช้ทุนมากแต่สามารถทำได้โดยการเทรดขนาดเล็กเช่นกัน กุญแจสำคัญของการเทรดแบบตะกร้าคือการเปลี่ยนแปลงอัตราการกระจายการลงทุนในอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ
ประโยชน์ของ Carry Trade
carry trade เป็นกลยุทธ์การเทรดในระยะยาวที่เหมาะสำหรับนักลงทุนมากกว่าเทรดเดอร์เพราะว่านักลงทุนจะไม่ต้องการเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคามาก Carry trade จะต้องถือออร์เดอร์เป็นเวลาหลายเดือน หรือปี ในครั้งหนึ่ง กุญแจสำคัญของกลยุทธ์นี้คือการได้กำไรจากการที่เรารอ ดังนั้นการรอคอยเป็นสิ่งที่ดี
ตามอุปสงค์ของ Carry trade เทรนด์ในระยะสั้นของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งสำคัญเพราะว่าค่าเงินในตลาดที่มีอัตราดอกเบี้ยต่างกันมากอาจจะสามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวสั้น ๆ ได้ด้วย สำหรับคนที่อยากจะ Short ด้วยพวกเขาไม่ควรถือออร์เดอร์ไว้นานเพราะว่า แต่ละวันอัตราดอกเบี้ยของพวกเขาจะต้องจ่ายเช่นกัน อย่างไรก็ตามวิธีที่เทรดเดอร์ระยะสั้นมองตลาดแบบนี้ทำให้ลดราคาเฉลี่ยของค่าเงินทำให้การเคลื่อนไหวไม่รุนแรงมากนัก ทิศทางของค่าเงินใน Carrytrade อาจจะไม่สำคัญเท่าไหร่แต่ว่านานวันเข้ามันมักจะมีความสำคัญมากขึ้นทุกที
Comments
Post a Comment